ถูกออกแบบขึ้นมาโดยใช้ Concept ของ ERP (Enterprise Resource Planning) โปรแกรมที่รวมทุกฟังชั่นการทำงานที่จำเป็นต่อธุรกิจไว้ในโปรแกรมเดียว เช่น การขาย, บัญชี, คลังสินค้า, ลูกค้าสัมพันธ์, ทรัพยากรบุคคล ดังนั้น สามารถใช้ TreeSoft กับธุรกิจใดก็ได้ ที่เกี่ยวกับการขายสินค้า (ขายหน้าร้าน, ขายออนไลน์) หรือธุรกิจด้านการให้บริการ (ร้านซ่อม, รับจ้าง) เราพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ SMEs โดยเฉพาะ
Indianapolis, IN: Que 004. 36 M649C 2009 New, M. (2013). Oracle enterprise manager cloud control l2c deep dive. New York: McGraw-Hill. 005. 7585 N532O 2013 Vengurlekar, N. Database cloud storage: The essential guide to oracle automatic storage management. New York: McGraw – Hill. 7585 V447D 2013 หนังสือ ตำรา และเอกสารประกอบการสอนหลัก อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูล Exercise Files No Attachment Found
ตอนนี้ไม่ว่าจะการทำงานอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือพื้นที่จัดเก็บ ในอดีตที่เราทำงานออกมาเป็นกระดาษ ก็จะต้องมีการเก็บในตู้หรือแฟ้มเก็บงานเพื่อจัดระเบียบและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล หลังจากนั้นก็เริ่มมีการทำงานบนคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้มีคนเห็นช่องทาง ในการสร้างอะไรบางอย่างมาช่วยจัดระเบียบการจัดเก็บเอกสารบนโลกอินเทอร์เน็ต จนเป็นที่มาของคลาวด์ (Cloud) หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตนั่นเอง วันนี้เรามี 7 Cloud ที่จะมาแนะนำให้ทุกคนได้เลือกใช้งานกันฟรีๆ แต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. Google Drive เริ่มต้นด้วย Cloud จากเจ้าแห่ง Search Engine อย่าง Google ที่ให้พื้นที่มาฟรีขนาด 15GB เพียงแค่เราสมัครบัญชี Google เท่านี้ เราก็ได้พื้นที่สำหรับเก็บไฟล์มาใช้ฟรีๆ กันแล้ว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เราสามารถเรียกไฟล์จาก Google Drive ใน Service ต่างๆ ของ Google ได้อีกด้วย ใช้งาน Google Drive ได้ที่นี่ 2. Microsoft OneDrive ต่อกันเลยกับ OneDrive พื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ ซึ่งเป็นบริการจาก Microsoft โดยเราสามารถใช้งานได้จากการสมัครบัญชีของ Microsoft และลงชื่อเข้าใช้บน Windows โดยเราสามารถเก็บไฟล์บน OneDrive ได้ฟรี 5GB ซึ่งถ้าเราอยากได้พื้นที่ที่มากกว่านี้ก็ต้องจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจที่ทาง Microsoft มีมาให้ ใช้งาน Microsoft OneDrive ได้ที่นี่ 3.
เกี่ยวกับ แพ็กเกจ การสนับสนุน VPN คำถามที่พบบ่อย เริ่มต้นที่ US$1. 99/เดือน พื้นที่เก็บข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น การเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ และอีกมากมาย รวมอยู่ในแพ็กเกจเดียวที่ใช้ร่วมกันได้ เริ่มต้นที่ US$1.
เข้าสู่เว็บไซต์ TeraBox สมัครผ่านหน้าเว็บ โดยเข้าสู่ หากเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไดก้ทันที เพียงพิมพ์ค้นหา TeraBox ไม่ว่าจะเป็น App Store หรือ Google Play 2. คลิกเลือกสร้างบัญชีผู้ใช้งาน เมื่อเข้าสู่หน้าแรกแล้ว จะมีให้เลือกทั้ง "ลงชื่อเข้าใช้งาน" หรือ "สร้างบัญชี" ให้เราคลิกเลือกสร้างบัญชีในระบบ TeraBox 3. คลิกเลือกวิธีการสมัคร เมื่อกดเลือกสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่หน้าเลือกวิธีการสมัครใช้งาน โดยมีให้เลือก 5 แบบ คือ สมัครด้วยบัญชี Google, สมัครด้วยเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล, สมัครด้วย QR Code, สมัครด้วย Facebook และสมัครด้วยบัญชี Apple ID ให้เลือกวิธีการสมัครด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่ง แต่เราแนะนำให้คุณลองสมัครด้วยบัญชี Google ซึ่งเป็นวิธีการสมัครที่ง่ายและเป็นพื้นฐานที่สุดครับ 4. เสร็จเรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็เสร็ตเรียบร้อย เปิดบัญชี TeraBox อย่างเป็นทางการ และรับหน่วยความในระบบคลาวด์มากถึง 1TB ฟรีทันที! ทั้งหมดนี้เป็นวิธีใช้งาน TeraBox ในเบื้องต้น เราต้องเริ่มจากการสมัครก่อน ประเภทของไฟล์ที่รองรับใน TeraBox ในหน้าแรกเราสามารถดูข้อมูลของไฟล์ทุกประเภทได้ในเอกสารทั้งหมด สำหรับประเภทของไฟล์ที่รองรับการใช้งาน แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ รูปภาพ สามารถบันทึกข้อมูลรูปถ่ายความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ได้มากถึง 250, 000 รูป เอกสาร รองรับการบันทึกหรือเปิดไฟล์ในรูปแบบ Microsoft Office, Adobe PDF รวมไปถึง Presentation มากถึง 6.
การใช้ภาษามาร์กอัปเพื่อยืนยันความปลอดภัย (SAML) จะช่วยให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้แอปพลิเคชันระบบคลาวด์ขององค์กรด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบ Google Cloud ของตนเองได้ ตั้งค่า SSO ผ่านทาง SAML สำหรับ Zscaler ขั้นตอนการตั้งค่าการลงชื่อเพียงครั้งเดียว (SSO) ผ่าน SAML สำหรับแอปพลิเคชัน Zscaler ขั้นตอนที่ 1: ตั้ง Zscaler เป็นผู้ให้บริการ SAML 2. 0 จากหน้าแรกของคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่ ความปลอดภัย ตั้งค่าการลงชื่อเพียงครั้งเดียว (SSO) สำหรับแอปพลิเคชัน SAML คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ในฐานะ ผู้ดูแลระบบขั้นสูง สำหรับงานนี้ คลิกปุ่ม ดาวน์โหลด เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลเมตาของ Google IdP และใบรับรอง X. 509 เปิดแท็บใหม่ในเบราว์เซอร์และลงชื่อเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชัน Zscaler ในฐานะผู้ดูแลระบบ คลิก การจัดการ > การตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์ เลือกช่องทำเครื่องหมาย SAML ในแท็บ โปรไฟล์การตรวจสอบสิทธิ์ คลิก กำหนดค่า SAML อัปโหลดข้อมูลเมตา Google IdP และใบรับรอง X. 509 ที่ต้องใช้ตั้งค่า SSO ที่คุณดาวน์โหลดในข้อ 3.
Cloud Storage คือ เทคโนโลยี Cloud computing โดยเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตออนไลน์มากยิ่งขึ้น ก้อนเมฆที่พูดถึง ก็คือแหล่งจัดเก็บข้อมูลของเรา ส่วนไม้ที่ใช้สอยก็คืออินเตอร์เน็ตที่เราต้องออนไลน์เพื่อที่จะดึงข้อมูลที่เก็บไว้มาใช้งาน แล้วมันต่างจากบริการฝากไฟล์ตรงไหน? วิธีการทำงานอาจจะคล้ายกัน แต่ขั้นตอนความสะดวกนั้น Cloud มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก การฝากไฟล์ในรูปแบบเดิม จะรับฝากไฟล์ที่สำเร็จรูปแล้ว เช่น รูปภาพ, เสียง, วีดีโอ, ไฟล์ที่ถูกบีบอัด เป็นต้น แล้วเวลาจะใช้งานก็ต้องดาวน์โหลดลงมาก่อนซึ่งจะเสียเวลามาก แต่สำหรับการจัดเก็บไฟล์ไว้กับ Cloud computing เราสามารถจัดการไฟล์ต่างๆ ได้เหมือนการจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราสามารถเข้าไปใช้งานไฟล์ต่างๆ บนเมฆได้ทันที โดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงมา โดยคลาวด์ที่จะพูดถึงเป็นแบบสาธารณะ (Public Cloud) ก็คือ คลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ ซึ่งมีผู้ให้บริการมากมาย ในบทความนี้จะแนะ6ผู้ให้บริการยอดนิยมดังนี้ 1. Google Drive บริการฝากไฟล์จากกูเกิล ผู้พัฒนา Search Engine ยักษ์ใหญ่ของโลก กับพื้นที่เริ่มต้นที่ให้มามากถึง 15GB และสามารถจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ เริ่มต้นประมาณ 60 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริการฝากไฟล์ที่ให้พื้นที่มากและราคาถูกที่สุดในขณะนี้เลยทีเดียว สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ของกูเกิล ไม่ว่าจะเป็นการแนบไฟล์บน Google Drive เพื่อส่งอีเมลทาง Gmail หรือเก็บไฟล์เอกสารต่าง ๆ ของ Google Docs เว็บไซท์:Google Drive 2.
ทำไม?
Dropbox บริการฝากไฟล์ยอดนิยมที่มีพื้นที่เริ่มต้นให้มาเพียง 2GB เท่านั้น แต่มีโปรโมชั่นแจกแถมพื้นที่เพิ่มให้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชวนเพื่อนมาใช้งานหรือโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่ทำให้สามารถได้พื้นที่เพิ่มฟรีอีก16 GB เลยทีเดียว หรือถ้าหากต้องการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มพื้นที่ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 270 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB รองรับการใช้งานทั้งบนเว็บและแอพฯ โดยจุดเด่นของ Dropbox ก็คือความอิสระในการฝากและแชร์ไฟล์ที่สามารถนำลิงก์ดาวน์โหลดของไฟล์ที่ฝากไว้ส่งไปให้คนอื่นดาวน์โหลดได้อย่างสะดวกและง่ายดาย แถมยังไม่มีการจำกัดขนาดไฟล์อีกด้วย เว็บไซท์:Dropbox 3. Box บริการฝากไฟล์ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร โดยมีพื้นที่เริ่มต้นให้ 10GB รองรับไฟล์ขนาดใหญ่สุดไม่เกิน 250MB สามารถเพิ่มพื้นที่เป็น 100GB (รองรับไฟล์ใหญ่สุด 5GB) ได้ด้วยการจ่ายเงินประมาณ 320 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ใช้ในกลุ่มองค์การก็มีให้เลือกได้หลายแพ็กเกจตามลักษณะการใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและแอพฯ เว็บไซท์:Box 4. ADrive ให้บริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ฟรีโดยให้พื้นที่เริ่มต้นมากถึง 50GB สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง มีเครื่องในการค้นหาที่ง่ายและสามารถแก้ไขเอกสารแบบออนไลน์โดยไม่ต้องดาวโหลดลงเครื่อง อัพโหลดทั้งโฟรเดอร์โดยที่ไม่ต้องอัพทีละไฟล์ แม้ว่า หน้าตา(Interface) อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย เว็บไซท์:ADrive 5.
Jumpshare สามารถอัพโหลดไฟล์ได้มากกว่าหลายร้อยประเภท ให้สตอเรจฟรี 2GB ที่สามารถเพิ่มได้ถึง 18GB ถ้าเชิญเพื่อนมาสมัครเพิ่ม สามารถบันทึกภาพหน้าจอได้ยาวถึง 30 วินาทีเก็บบนคลาวด์ได้ 16. Amazon Drive เป็นบริการพิเศษสำหรับสมาชิกระดับ Prime ที่เก็บภาพได้ไม่จำกัด และแถมอีก 5GB สำหรับเก็บวิดีโอและไฟล์อื่นเพิ่มเติม อ่านทั้งหมดที่นี่ Lifewire