เวลาที่ลูกนอนหลับเป็นเวลาที่คุณแม่จะได้พักผ่อนหย่อนใจ ส่วนใหญ่อาจจะใช้เวลาดังกล่าว ทำงานบ้านที่คั่งค้างก็ได้ แต่บางครั้งลองใช้เวลาดังกล่าวเพื่อการรีเฟรชตัวเองบ้างดีไหม? เช่น ไปนั่งฟังเพลงที่ชอบในอีกห้องหนึ่ง อ่านหนังสือนิตยสาร หรือทำสิ่งที่อยากทำ ที่อยากจะแนะนำก็คือ การเปิดดีวีดีดูหนัง ละครประเภทเศร้าซึ้งใจแล้วร้องไห้ให้เต็มที่ กล่าวกันว่าน้ำตาช่วยกำจัดความเครียดได้! ให้รางวัลกับตัวเอง ในแต่ละวันที่ยุ่งเหยิง อย่าลืมให้รางวัลเล็กๆน้อยๆ กับตัวเองที่พยายามปฏิบัติหน้าที่บ้าง เช่น สั่งอาหารกลางวันหรูๆ มาทาน ซื้อกระเป๋าที่อยากได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือเพื่อผ่อนแรงในการทำงานบ้างก็อ้อนขอให้คุณพ่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ เป็นต้น หากทำให้คุณแม่อารมณ์แจ่มใสขึ้นแล้วล่ะก็คุณพ่อต้องเห็นด้วยแน่ๆ! การเริ่มทำงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง หากเหนื่อยล้ากับการเลี้ยงลูกจนทนไม่ไหวแล้ว การตัดสินใจเริ่มทำงานก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าเอาลูกไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรี่ ช่วงเวลาที่อยู่กับลูกสั้นลงก็จริงแต่จะทำให้เวลาที่ลูกกับคุณแม่อยู่ด้วยกันกลายเป็นเวลาที่มีค่าขึ้นมา หลายคนพูดว่าการทำเช่นนี้ทำให้จัดแบ่งเวลาได้ดีขึ้นด้วย มากำจัดความเครียดที่เกิดจากการเลี้ยงลูกกันเถอะ ~ขอความร่วมมือ~ หากพยายามที่จะทำทุกอย่างคนเดียว ก็จะต้องเกิดความเครียดขึ้นจนได้ การเลี้ยงลูกไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพียงคนเดียว อย่าฝืน มาขอความร่วมมือจากคนรอบข้างกัน!
09-4636-6195 ค่ะ
ร่วมมือกับคุณพ่อ เพราะเป็นลูกของทั้งสองคน ให้คุณพ่อช่วยเลี้ยงลูกด้วย เช่น แบ่งหน้าที่ให้คุณพ่ออาบน้ำให้ลูก หรือวันเสาร์ก็ฝากลูกไว้กับคุณพ่อ ส่วนคุณแม่ก็ออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ เป็นต้น หากคุณแม่ได้รับความช่วยเหลือในการจัดสรรเวลาส่วนตัวของตนเองได้ก็จะรู้สึกเบาใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่สำหรับคุณพ่อที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานล่ะ จะทำอย่างไรจึงจะให้มาช่วยเลี้ยงลูกด้วยความรู้สึกอันดีได้? ใช้วิธีการขอร้องที่ดีและชื่นชมคุณพ่อกัน ใจจริงแล้วคุณแม่อยากจะให้คุณพ่อช่วยทำโดยคุณแม่ไม่ต้องเอ่ยปากขอร้อง แต่ถึงอยากจะช่วยทำงานบ้านหรือเลี้ยงลูกก็ตามคุณพ่อส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จะเทียบไปแล้วคุณพ่อยังเป็นมือใหม่กว่าคุณแม่มาก บอกสิ่งที่ต้องการจะให้ช่วยอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมทั้งสอนวิธีทำ อีกทั้งการขอร้องให้ช่วยแบ่งเบางานอย่างนุ่มนวล เช่น "ถ้าช่วยดูดฝุ่นระหว่างที่แม่ตากผ้าจะขอบคุณมากๆ เลย" เมื่อช่วยทำเสร็จแล้วก็บอกว่า "ขอบคุณค่ะ" แสดงความรู้สึกขอบคุณให้รับรู้แล้วก็อย่าลืมชม เช่น "พ่อให้นมลูกเก่งจัง! " คุณพ่อต้องรู้สึกอยากช่วยทำขึ้นมาอย่างแน่นอน! คุณพ่อที่ทำงานยุ่งล่ะ?
ก็อย่าลืมพูดชมออกไปให้อีกฝ่ายรู้ การสร้างความสัมพันธ์อันดีเอาไว้จะทำให้การขอความช่วยเหลือในครั้งต่อไปทำได้ง่ายขึ้น
Home > ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด คุณแม่ต้องรู้!
ภายหลังจากแม่หมาคลอดลูกแล้ว เจ้าของหลายคนต่างมุ่งให้ความสนใจกับสมาชิกใหม่อย่างลูกหมา จนลืมไปว่า แม่หมาก็ต้องการการดูแลเอาใส่ใจไม่แพ้กัน การดูแลแม่หมาหลังคลอดจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความผิดปกติของแม่หมาส่วนใหญ่นั้น จะตามมาให้เห็นภายหลังคลอด ความผิดปกติภายหลังการคลอด มีด้วยกันหลายสาเหตุ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ มุมหมอหมา จะขอแยกความผิดปกติออกเป็นส่วนๆ ดังนี้ครับ 1.
ไม่ไขว่คว้าหาความสมบูรณ์แบบ หากจะทำทั้งงานบ้านและเลี้ยงลูกให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภาระที่แบกรับก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสาเหตุให้ทั้งร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า การตัดใจคิดว่า "ช่างมันเถอะ" บ้างนั้นเป็นความคิดสำคัญที่จะทำไม่ให้เกิดความเหนื่อยล้าในการเลี้ยงลูกด้วย หากคุณแม่เหนื่อยก็ไปซื้อกับข้าวมาทานบ้าง บ้านจะรกไปบ้างก็ไม่ต้องไปมอง การร้องไห้เป็นหน้าที่ของทารก ถึงลูกจะร้องไห้งอแงขึ้นมาก็บอกให้ "รอเดี๋ยวนะลูก" ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนวิ่งเข้าไปดูเดี๋ยวนั้นก็ได้ ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่มองหาตัวเองที่ทำใจคิดได้ว่า "ช่างมันเถอะ" ถ้าคุณแม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสนุกสนาน ลูกก็จะมีความสุขไปด้วยแน่ๆ!