จริงๆ แล้วการเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปเรียนที่ต่างประเทศนั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอะไร หากน้องๆ มีที่ปรึกษาที่ดีคอยช่วยเหลือและตอบข้อซักถาม แต่เพื่อกันเหนียว นี่คือรายการของสิ่งต่างๆ ที่ควรเช็คให้ถูกต้อง อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ สิ่งที่ควรเตรียมไป ฯลฯ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ กับบทความ 5 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนไปเรียนเมืองนอก ฉบับรวบรัด!
· บ้านและครอบครัว สำหรับพ่อแม่ทุกคนมีเวลาที่ลูกของพวกเขากลายเป็นเด็กก่อนวัยเรียน เป็นช่วงเวลาที่มีเงื่อนไข (และเฉพาะหนึ่งปีก่อนที่เด็กมาถึงในชั้นแรก) ที่ผู้ใหญ่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ คำถามมากมายเกิดขึ้นอย่างถูกต้องคือการสื่อสารกับเด็กอย่างไรอ่านหนังสือศึกษาก่อนวัยเรียนหรืออาจจะต้องเขียนว่าอะไรคือความต้องการในปัจจุบันสำหรับความรู้เบื้องต้น? พ่อแม่เป็นคนสำคัญในชีวิตของลูกหลานของพวกเขาต้องแรกของจิตใจทั้งหมดเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในชีวิต อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือความไม่เต็มใจของเด็กที่จะเข้ารับการศึกษาในสถาบันการศึกษาและผลการดำเนินงานทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรูปร่างของบุคคลโดยทั่วไป วิธีการสื่อสารกับเด็กก่อนเรียน? แน่นอนว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการแจ้งเตือนทุกวันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานะที่ใกล้เข้ามา บทสนทนาควรละเอียดอ่อนและไม่สร้างความรำคาญ หากคุณคิดว่าการสื่อสารแบบนี้ต้องใช้เวลาในการแยกกันอย่าล้อเลียนเด็กก่อนวัยเรียนด้วยการสนทนาที่ยาวนาน เพราะเขายังเป็นเด็กอยู่และข้อมูลทั้งหมดแม้แต่เรื่องร้ายแรงก็คือการเรียนรู้ที่ดีที่สุดผ่านเกม อย่าทำให้เขาตกใจด้วยวลีเช่น "ที่โรงเรียนคุณจะจินตนาการได้อย่างถูกต้อง! "
เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ก่อนเดินทางจริง ควรรีเช็กให้แน่ใจว่าไม่ลืมเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พาสปอร์ต เอกสารการเรียนต่าง ๆ บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุตัวตน เอกสารเหล่านี้สำคัญมาก ๆ ถ้าลืมก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยากตามมาอีกมาก 5.
สำหรับ VPN มันก็จะมีทั้งแบบที่ฟรีและแบบที่เสียตังค์ ซึ่งเราก็จะแนะนำทั้ง 2 แบบนั่นแหละ แต่ก็ต้องบอกไว้เหมือนกันว่าอาจจะไม่ได้แนะนำหลายอันเท่าไร เราจะพูดถึงอันที่เราใช้แล้วเวิร์คละกันเนอะ (ขอเกริ่นว่าเราใช้ iPhone นะ:)) แบบฟรี: VPN Master Unlimited vpn proxy แบบเสียตังค์: VyprVPN, ExpressVPN ถ้าถามว่ามันเวิร์คตลอดเวลาแบบ 100% รึเปล่า? ขอตอบเลยว่า ไม่! บางทีมันก็มีต่อไม่ติด บางทีสัญญาณมันก็ไม่ดี ดังนั้นเราแนะนำว่าโหลดอะไรได้โหลดๆไว้ก่อน(โดยเฉพาะอันที่ฟรี) โหลดเผื่อๆเอาไว้เผื่ออันไหนใช้ไม่ได้ก็จะได้เปลี่ยนไปใช้อีกอันนึงแทน G. เตรียมตัวและเปิดใจ การจะไปเรียนต่อต่างประเทศไม่ว่าจะประเทศไหนก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมทั้งนั้นแหละเนอะ เพราะว่ามันคือการที่เราต้องไปอยู่ในที่ๆเราไม่คุ้นเคย ไปเจออะไรใหม่ๆในชีวิต ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ "เตรียมตัว" ก็คือ เตรียมความพร้อมก่อนมา รวมไปถึงเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย! ดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงไว้ เพราะว่าการเดินทางไปในสถานที่ใหม่ๆร่างกายเราก็ต้องปรับตัว ถ้าเราแข็งแรงต่อให้เจอสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคยเราก็จะไม่ป่วย อีกอย่างที่ต้องเตรียมสำหรับการมาเรียนที่เมืองจีนสำหรับเราก็คือ "เตรียมเปิดใจ" ที่บอกว่าเตรียมเปิดใจก็เพราะว่า โดยส่วนตัวแล้ว พอเรามานั่งคิดดูเรานี่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศจีนเลย ถ้าไม่นับฮ่องกงกับไต้หวันแล้วเราก็แทบไม่ค่อยรู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าบ้านเมืองเขาเป็นยังไงในความเป็นจริง?
ค่าครองชีพแต่ละเมืองแตกต่างกัน ค่าครองชีพที่เมืองจีน จะแตกต่างกันไปตามแต่เมืองที่เราเลือก ถ้าเราเลือกเรียนที่เมืองใหญ่ อย่างเช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว ค่าครองชีพอาจจะค่อนข้างสูงสักนิด แต่สำหรับพวกเราที่เป็นนักเรียนนักศึกษา วิธีการประหยัดที่ดีที่สุด คือการกินอาหารในโรงอาหาร เพราะกับข้าวในโรงอาหารจีนค่อนข้างมีราคาถูก แม้รสชาติอาจจะไม่ค่อยถูกปากพวกเรานัก หรือ ทำกับข้าวเองในหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่หอพักนักศึกษาต่างชาติ จะมีห้องครัวรวม ให้พวกเราได้ทำอาหารได้ 7. สวรรค์ของการช้อบปิ้ง สินค้าเมืองจีนค่อนข้างถูก มีหลายเกรด หลายราคาให้เราเลือกซื้อ ถ้าหากเราเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าทั่วไป เราต้องอย่าอายที่จะต่อราคา เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน มักตั้งราคาสูงเกินจริง โดยเฉพาะหากรู้ว่าเราเป็นต่างชาติ ช้อปปิ้งออนไลน์ (, ) ถือเป็นสวรรค์ของนักศึกษาไทย เพราะราคาถูกและสะดวก แต่ต้องพึงระลึกไว้ว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย นอกจากนี้ บริการในเมืองจีน จะราคาถูกลงมาก หากเราใช้บริการผ่านทางแอพพลิเคชันออนไลน์ เช่น ซื้อตั๋วภาพยนตร์ หากเราซื้อหน้าเคาท์เตอร์ เราอาจต้องเสียเงินถึง 100หยวน ในขณะที่ เสียเพียง 25หยวน หากซื้อผ่านแอพพลิเคชัน 8.
โท? ตัวเลขในตารางเป็น เงินก้อนที่ต้องเตรียมไว้หมุนก่อนเรียน และระยะเวลาที่ต้องออมล่วงหน้า สำหรับหลักสูตรเรียนปริญญาโท 4 เทอม เทอมละ 50, 000 บาท เพื่อนๆสามารถลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะสม กับการ วางแผนเก็บเงิน ของตัวเองได้นะครับ เพราะทุกเป้าหมายในชีวิตจำเป็นต้องมีการเตรียมตัว โดยเฉพาะเรื่องการเงิน! ด้วยความปรารถนาดีจาก FINSTREET >
กำหนดงบประมาณและเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนไปเรียนจริง เมื่อเราตัดสินใจจะเรียนต่อที่ญี่ปุ่นแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถไปเรียนได้ทันทีทันใด เนื่องจากควรเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าประมาณ 1- 2 ปีค่ะ ทำไมต้องเตรียมตัวนานขนาดนั้นล่ะ? ที่จริงแล้วการเตรียมตัวมากน้อยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละคนค่ะ บางคนเรื่องงบประมาณพร้อมมาก แต่ยังเรียนมัธยมปลายจบไม่จบ หรือว่าเรียนจบแล้วอยากไปเรียนต่อญี่ปุ่นเลย แต่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมากก่อน ก็ต้องไปลงเรียนระดับพื้นฐานก่อนค่ะ ซึ่งแอดมินขอจัดเรียงสิ่งที่เราต้องเตรียมภายใน 1 – 2 ปีนี้นะคะ 3. 1 เตรียม Statement ผู้ค้ำประกัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความพร้อมของผู้ค้ำประกันด้านการเงินค่ะ จะเป็นช่วงเวลาที่เราสามารถเตรียมเงินได้ไม่มากก็น้อย หากขาดไปเพียงเล็กน้อยก็ค่อยๆ เติมเงินให้บัญชีมีการเคลื่อนไหวโดยไม่ดูผิดปกติ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธวีซ่านั่นเองค่ะ 3.
การเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นจุดมุ่งหมายและความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เมื่อเราสมัครเรียนต่อและผ่านการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะออกเดินทางนั้น ก็มีเรื่องให้เตรียมตัวอยู่พอสมควร อาทิ เรื่องเอกสาร การวางแผนการใช้จ่ายเงิน การจองที่พักและตั๋วเครื่องบินต่างๆ เป็นต้น Allianz Travel จึงขอชวนผู้อ่านที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก มาสำรวจกันว่า ก่อนที่จะออกเดินทางจริง ต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง 1.
สวัสดีค่ะ! สวัสดีทุกๆคนที่เขามาอ่าน story ของเราทุกคนเลย วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์(ซึ่งจริงๆก็ยังไม่ได้เริ่มต้นไปมากมายอะไรเบอร์นั้น)ของเรากับการมาเรียนภาษาจีนที่เซี่ยงไฮ้ เพราะตอนเราเริ่มสนใจอยากมาเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน เราพยายามจะหาข้อมูลแต่ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน พวกข้อมูลหรือรีวิวก็มีไม่ค่อยเยอะไม่ค่อยจุใจถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ เราเลยอยากจะเขียนถึงประสบการณ์ของเรา เผื่อว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆที่อยากมาในอนาคตบ้างไม่มากก็น้อย:) สำหรับ story ในวันนี้เราขอพูดถึง "การเตรียมตัวก่อนไปเรียนที่เมืองจีน"กันก่อน! A.
มันจะต้องอธิบายสิ่งที่ชนิดของวันหยุดใส่ทำไมในรูปแบบที่ไม่กางเกงยีนส์ที่ชื่นชอบและทำไมเราต้องช่อดอกไม้ เรายังคงที่จะสื่อสารกับบุตรหลานของคุณตามที่คุณต้องการไม่ว่าคุณจะเป็น preschooler ก่อนวันแรกของโรงเรียน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างน้อยหนึ่งเดือนเพื่อเตรียมความพร้อมห้องของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณวางแผนที่จะซ่อมแซมพระคาร์ดินัลและเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ preschooler ควรเติบโตรากในสภาพแวดล้อมใหม่และไม่รู้สึก แต่ที่น่ารื่นรมย์ความเครียดยังเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้ของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด การประเมินผล: